จากเหตุการณ์ของ Sony Picture ที่ถูก hack ข้อมูลไป ทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก จนกลายเป็นมหากาพย์ของการ hack ในช่วงท้ายปี ล่าสุด กระแสข่าวนี้ ได้ออกมาว่า ทาง Sony ได้พยายามแก้ไขอยู่ในด้านเทคนิคต่างๆ เพื่อให้ระบบของข้อมูลทุกอย่างกลับมาทำงานเหมือนเดิม และมีข่าวลือว่าช่วงของการแก้ไขระบบนั้น ทางพนักงานของ Sony ต้องไปใช้การตอกบัตรแทนการสแกน เพื่อเข้าทำงานแทนเแต่ล่าสุด ทางผู้นำสหรัฐฯ อย่าง โอบามา ก็ได้ออกมาตอบโต้ และคิดว่า Sony ตัดสินใจผิดที่ระงับการฉายภาพยนตร์เรื่อง The Interview
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ให้คำมั่นว่า สหรัฐฯจะตอบโต้ กรณีที่เกาหลีเหนือโจมตีบริษัทโซนี พิกเจอร์ ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐฯ ได้ระบุว่า นับเป็นความผิดพลาดของโซนี พิกเจอร์ ที่ระงับการฉายภาพยนตร์เรื่อง ดิ อินเทอร์วิว โดยสหรัฐฯจะดำเนินการตอบโต้เกาหลีเหนือ ด้วยช่องทางและเวลาที่เหมาะสม โดย สหรัฐฯรับไม่ได้ที่จะอยู่ร่วมกับเผด็จการที่เข้ามาเซนเซอร์สื่อในสหรัฐฯด้านนายไมเคิล ลินตัน ประธานบริหารบริษัทโซนี พิคเจอร์ ออกแถลงการณ์ในเวลาต่อมาว่า โซนี พิกเจอร์ไม่ได้ตัดสินใจผิดที่ระงับการฉายภาพยนตร์เรื่องดิ อินเตอร์วิว แต่เนื่องจากบริษัทโซนี่ ได้รับความเสียหายจากการขู่โจมตีของแฮกเกอร์ อีกทั้งยังมีการขู่โจมตีโรงภาพยนตร์ที่จะฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ จึงต้องตัดสินใจระงับการฉายไว้ อย่างไรก็ตาม โซนีก็อยากจะให้ทุกคนได้มีโอกาสได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ก่อนหน้านี้โซนี ผู้ผลิตหนังเรื่องดิ อินเทอร์วิว ออกมาประกาศยกเลิกแผนการฉายหนังเรื่องดังกล่าว ในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ หลังโรงภาพยนตร์หลายแห่งในสหรัฐฯ ตัดสินใจที่จะไม่ฉายเรื่องดังกล่าว เพราะกังวลเรื่องของความปลอดภัย เนื่องจากมีกลุ่มคนที่อ้างตัวว่าเป็นแฮกเกอร์ ประกาศว่า จะโจมตีโรงหนังทุกแห่งในสหรัฐฯที่ฉายหนังเรื่องนี้ ให้เป็นวินาศกรรมซ้ำรอยเหตุการณ์ 11 กันยา เนื่องจากภาพยนตร์เรื่องดิ อินเทอร์วิว มีเนื้อหาเกี่ยวกับการล้อเลียนนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ